Close Menu
    phuketbar
    • Home
    • ข่าวสารล่าสุด
    • ความบันเทิง
    phuketbar
    ข่าวสารล่าสุด

    เคล็ดลับกำจัด กลิ่น ใต้วงแขนด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติ

    Christian MooreBy Christian MooreJuly 25, 2025No Comments2 Mins Read

    กลิ่น ใต้วงแขนเป็นปัญหาที่หลายคนประสบพบเจอและสร้างความไม่มั่นใจในชีวิตประจำวัน รักแร้ สาเหตุหลักของกลิ่นนี้เกิดจากแบคทีเรียที่อาศัยอยู่บนผิวหนังบริเวณที่อับชื้น เช่น รักแร้ เมื่อเหงื่อออก แบคทีเรียจะย่อยสลายสารประกอบในเหงื่อ ทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ แม้ว่าตลาดจะมีผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายมากมาย แต่บางคนอาจแพ้สารเคมีหรือต้องการทางเลือกจากธรรมชาติที่ปลอดภัยกว่า

    ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำ วิธีกำจัดกลิ่นใต้วงแขนด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติ ที่หาง่ายในบ้าน ช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์อย่างได้ผล โดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง


    สาเหตุของกลิ่นใต้วงแขน

    ก่อนที่จะไปดูวิธีแก้ไข ควรเข้าใจสาเหตุของกลิ่นใต้วงแขนก่อน ซึ่งมีปัจจัยหลักๆ ดังนี้

    1. แบคทีเรียบนผิวหนัง – บริเวณใต้วงแขนมีแบคทีเรียเช่น Corynebacterium และ Staphylococcus ที่ย่อยสลายโปรตีนและไขมันในเหงื่อ ทำให้เกิดกลิ่น
    2. เหงื่อออกมาก – ต่อมเหงื่อชนิด Apocrine จะหลั่งเหงื่อที่มีไขมันและโปรตีน เมื่อถูกย่อยสลายโดยแบคทีเรียจึงเกิดกลิ่นแรง
    3. อาหารการกิน – อาหารบางชนิด เช่น กระเทียม หัวหอม เครื่องเทศ และอาหารรสจัด อาจทำให้เหงื่อมีกลิ่นแรงขึ้น
    4. สุขอนามัย – การไม่ทำความสะอาดใต้วงแขนอย่างเหมาะสมทำให้แบคทีเรียสะสม
    5. เสื้อผ้า – สวมเสื้อผ้าที่อับชื้นหรือทำจากผ้าไม่ระบายอากาศ ทำให้เหงื่อสะสมและเกิดกลิ่น

    10 วัตถุดิบธรรมชาติช่วยกำจัดกลิ่นใต้วงแขน

    1. เบกกิ้งโซดา (Baking Soda)

    เบกกิ้งโซดามีคุณสมบัติดูดซับความชื้นและช่วยปรับสมดุลค่า pH บนผิวหนัง ทำให้แบคทีเรียเจริญเติบโตได้ยาก

    วิธีใช้:

    • ผสมเบกกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะกับน้ำเล็กน้อยจนเป็นเนื้อครีม
    • ทาบริเวณใต้วงแขนทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วล้างออก
    • หรือใช้เบกกิ้งโซดาผสมกับแป้งข้าวโพดโรยไว้เพื่อลดเหงื่อ

    2. น้ำมะนาว (Lemon Juice)

    กรดซิตริกในมะนาวช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและลดกลิ่นไม่พึงประสงค์

    วิธีใช้:

    • หั่นมะนาวเป็นชิ้นบาง ๆ ถูเบา ๆ บริเวณใต้วงแขน
    • ทิ้งไว้ 5-10 นาที แล้วล้างออก (หากผิวแพ้ง่ายให้ผสมน้ำเล็กน้อย)
    • ควรหลีกเลี่ยงการออกแดดหลังใช้ เพราะอาจทำให้ผิวไหม้ได้

    3. น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล (Apple Cider Vinegar)

    น้ำส้มสายชูหมักมีกรดอะซิติกที่ช่วยฆ่าเชื้อและปรับสมดุลผิว

    วิธีใช้:

    • ผสมน้ำส้มสายชูหมักกับน้ำในอัตราส่วน 1:1
    • ใช้สำลีชุบแล้วทาบริเวณใต้วงแขน ทิ้งไว้ 5 นาทีแล้วล้างออก
    • หรือใช้เป็นสเปรย์ระงับกลิ่นโดยผสมกับน้ำมันหอมระเหย

    4. ใบเสจ (Sage Leaves)

    ใบเสจมีสารต้านแบคทีเรียและช่วยลดการผลิตเหงื่อ

    วิธีใช้:

    • ต้มใบเสจในน้ำร้อน แล้วใช้ผ้าชุบน้ำยามาเช็ดใต้วงแขน
    • หรือนำใบเสจมาบดผสมกับน้ำเล็กน้อยแล้วพอกบริเวณที่ต้องการ

    5. ต้นโรสแมรี่ (Rosemary)

    มีสารต้านเชื้อราและแบคทีเรีย ช่วยระงับกลิ่นกาย

    วิธีใช้:

    • ต้มโรสแมรี่กับน้ำ แล้วใช้เป็นน้ำล้างใต้วงแขน
    • หรือนำมาบดผสมกับเบกกิ้งโซดาเพื่อทำเป็นแป้งระงับกลิ่น

    6. เปลือกมะกรูด (Kaffir Lime Peel)

    น้ำมันหอมระเหยในมะกรูดช่วยลดแบคทีเรียและกลิ่นเหงื่อ

    วิธีใช้:

    • นำเปลือกมะกรูดสดมาถูเบา ๆ บริเวณใต้วงแขน
    • หรือต้มเปลือกมะกรูดแล้วใช้เป็นน้ำล้างทำความสะอาด

    7. ชาเขียว (Green Tea)

    สารต้านอนุมูลอิสระในชาเขียวช่วยฆ่าเชื้อและลดการอับชื้น

    วิธีใช้:

    • ชงชาเขียวแล้วนำสำลีชุบมาทาบริเวณใต้วงแขน
    • หรือใช้ใบชาเขียวมาบดพอกเพื่อดูดซับกลิ่น

    8. ใบบัวบก (Gotu Kola)

    มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียและช่วยสมานผิว

    วิธีใช้:

    • นำใบบัวบกมาบดผสมกับน้ำเล็กน้อยแล้วทาลงบนผิว
    • หรือต้มน้ำใบบัวบกแล้วใช้ล้างทำความสะอาด

    9. ขมิ้นชัน (Turmeric)

    ขมิ้นมีสารเคอร์คูมินที่ช่วยต้านเชื้อและลดการอักเสบ

    วิธีใช้:

    • ผสมผงขมิ้นกับน้ำเล็กน้อยจนเป็นเนื้อครีม
    • ทาลงบนใต้วงแขนทิ้งไว้ 10 นาที แล้วล้างออก

    10. น้ำมันทีทรี (Tea Tree Oil)

    น้ำมันทีทรีมีคุณสมบัติต้านเชื้อราและแบคทีเรียอย่างแข็งแรง

    วิธีใช้:

    • ผสมน้ำมันทีทรี 2-3 หยดกับน้ำมันมะพร้าวหรือน้ำ
    • ทาลงบนใต้วงแขนวันละครั้งเพื่อลดกลิ่น

    วิธีป้องกันกลิ่นใต้วงแขนด้วยธรรมชาติ

    นอกจากการใช้วัตถุดิบธรรมชาติแล้ว ควรปรับพฤติกรรมเพื่อป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ด้วยวิธีต่อไปนี้

    1. ทำความสะอาดใต้วงแขนสม่ำเสมอ – ใช้สบู่ฆ่าเชื้อหรือน้ำยาทำความสะอาดอ่อน ๆ
    2. สวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี – เลือกผ้าฝ้ายหรือผ้าเนื้อบางแทนผ้าใยสังเคราะห์
    3. หลีกเลี่ยงอาหารกระตุ้นกลิ่น – เช่น กระเทียม หัวหอม อาหารรสจัด
    4. ดื่มน้ำมาก ๆ – ช่วยขับสารพิษและลดความเข้มข้นของเหงื่อ
    5. โกนขนรักแร้เป็นประจำ – ลดพื้นที่ให้แบคทีเรียสะสม

    วิธีการใช้วัตถุดิบธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ

    1. เบกกิ้งโซดา + น้ำมันมะพร้าว

    เบกกิ้งโซดาช่วยดูดซับความชื้นและลดแบคทีเรีย ส่วนน้ำมันมะพร้าวมีคุณสมบัติต้านเชื้อและให้ความชุ่มชื้น

    สูตร:

    • ผสมเบกกิ้งโซดา 2 ช้อนโต๊ะกับน้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ
    • คนให้เข้ากันจนเป็นเนื้อครีม
    • ทาบริเวณใต้วงแขนหลังอาบน้ำ ทิ้งไว้ 10 นาทีแล้วล้างออก
    • ใช้สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง

    2. มะนาว + เกลือทะเล

    กรดจากมะนาวช่วยฆ่าเชื้อ ส่วนเกลือทะเลช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าและลดแบคทีเรีย

    สูตร:

    • คั้นน้ำมะนาว 1 ลูก ผสมกับเกลือทะเล 1 ช้อนชา
    • ใช้สำลีชุบแล้วทาบริเวณใต้วงแขน
    • ทิ้งไว้ 5 นาทีแล้วล้างออก (หากแสบให้ล้างออกทันที)
    • ควรทำก่อนนอนเพื่อไม่ให้ผิวโดนแดด

    3. น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล + น้ำเปล่า

    เหมาะสำหรับคนที่มีเหงื่อออกมากและกลิ่นแรง

    สูตร:

    • ผสมน้ำส้มสายชูหมักและน้ำในอัตราส่วน 1:1
    • ใส่ขวดสเปรย์แล้วฉีดพ่นใต้วงแขนหลังอาบน้ำ
    • ทิ้งไว้ให้แห้งเอง ไม่ต้องล้างออก
    • ใช้ได้ทุกวัน

    4. แป้งข้าวโพด + ใบเสจแห้ง

    แป้งข้าวโพดช่วยดูดซับเหงื่อ ส่วนใบเสจช่วยระงับกลิ่น

    สูตร:

    • บดใบเสจแห้งให้ละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
    • ผสมกับแป้งข้าวโพด 3 ช้อนโต๊ะ
    • เก็บในขวดแก้ว ใช้โรยใต้วงแขนเหมือนแป้งทาตัว

    เคล็ดลับเพิ่มเติมเพื่อลดกลิ่นใต้วงแขน

    1. ใช้สมุนไพรแบบสเปรย์

    หากไม่สะดวกในการพอกหรือทา สามารถทำเป็นสเปรย์ระงับกลิ่นได้

    สูตรสเปรย์จากธรรมชาติ:

    • น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
    • น้ำส้มสายชูหมัก 1 ช้อนโต๊ะ
    • น้ำเปล่า ½ ถ้วย
    • น้ำมันทีทรี 5 หยด

    ผสมทั้งหมดแล้วใส่ขวดสเปรย์ ใช้ฉีดใต้วงแขนหลังอาบน้ำ

    2. หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีรุนแรง

    • เลือกสบู่หรือเดオโดรانتที่ปราศจากแอลกอฮอล์และพาราเบน
    • ลองใช้สบู่สมุนไพร เช่น สบู่น้ำมันมะพร้าว สบู่มะกรูด

    3. ใช้ถ่านกัมมันต์ (Activated Charcoal)

    ถ่านกัมมันต์ช่วยดูดซับกลิ่นและความชื้นได้ดี

    วิธีใช้:

    • นำแคปซูลถ่านกัมมันต์มาเปิดแล้วผสมกับน้ำเล็กน้อย
    • ทาลงบนใต้วงแขน ทิ้งไว้ 10 นาทีแล้วล้างออก

    ข้อควรระวังในการใช้วัตถุดิบธรรมชาติ

    แม้ว่าวิธีธรรมชาติจะปลอดภัย แต่บางคนอาจมีผิวแพ้ง่าย จึงควรทดสอบก่อนใช้เสมอ

    1. ทดสอบการแพ้ – ทาสารละลายบนท้องแขนทิ้งไว้ 15 นาที หากไม่มีอาการคันหรือแดงจึงใช้ได้
    2. ไม่ใช้กับผิวที่มีแผล – กรดจากมะนาวหรือน้ำส้มสายชูอาจทำให้แสบได้
    3. หลีกเลี่ยงแสงแดดหลังใช้มะนาว – อาจทำให้ผิวคล้ำเสีย

    สรุป

    การกำจัดกลิ่นใต้วงแขนด้วยวัตถุดิบธรรมชาติเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการหลีกเลี่ยงสารเคมี หากใช้อย่างสม่ำเสมอและถูกวิธี กลิ่นไม่พึงประสงค์ก็จะลดลงอย่างแน่นอน ที่สำคัญคือต้องดูแลสุขอนามัยควบคู่ไปด้วย เช่น อาบน้ำทุกวัน เปลี่ยนเสื้อผ้าสะอาด และดื่มน้ำมากๆ

    หากลองทุกวิธีแล้วยังไม่ได้ผล อาจต้องปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุอื่นๆ เช่น ฮอร์โมนผิดปกติหรือโรคผิวหนัง

    หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณมั่นใจมากขึ้นและมีกลิ่นกายที่สดชื่นทุกวัน!

    จาก กรุงเทพฯ สู่เชียงใหม่ การผจญภัยอันน่าตื่นเต้น ระวัง! สัญญาณเริ่มต้นของโรค หัวใจ ที่ไม่ควรมองข้าม สถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ ที่คุณไม่ควรพลาด เคล็ดลับกำจัด กลิ่น ใต้วงแขนด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติ
    Christian Moore

    Related Posts

    เดอ ฮาน (De Haan): ที่พักริมทะเลเงียบสงบใน เบลเยียม

    July 27, 2025

    วิธีตรวจสอบความถูกต้องของผลิตภัณฑ์ดูแล ผิว เพื่อหลีกเลี่ยงของปลอม

    July 26, 2025

    ทริป ประหยัด ไปเยอรมนี: เคล็ดลับประหยัดเงินโดยไม่กระทบต่อความสนุก

    July 18, 2025

    Comments are closed.

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.