กลิ่น ใต้วงแขนเป็นปัญหาที่หลายคนประสบพบเจอและสร้างความไม่มั่นใจในชีวิตประจำวัน รักแร้ สาเหตุหลักของกลิ่นนี้เกิดจากแบคทีเรียที่อาศัยอยู่บนผิวหนังบริเวณที่อับชื้น เช่น รักแร้ เมื่อเหงื่อออก แบคทีเรียจะย่อยสลายสารประกอบในเหงื่อ ทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ แม้ว่าตลาดจะมีผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายมากมาย แต่บางคนอาจแพ้สารเคมีหรือต้องการทางเลือกจากธรรมชาติที่ปลอดภัยกว่า
ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำ วิธีกำจัดกลิ่นใต้วงแขนด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติ ที่หาง่ายในบ้าน ช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์อย่างได้ผล โดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
สาเหตุของกลิ่นใต้วงแขน

ก่อนที่จะไปดูวิธีแก้ไข ควรเข้าใจสาเหตุของกลิ่นใต้วงแขนก่อน ซึ่งมีปัจจัยหลักๆ ดังนี้
- แบคทีเรียบนผิวหนัง – บริเวณใต้วงแขนมีแบคทีเรียเช่น Corynebacterium และ Staphylococcus ที่ย่อยสลายโปรตีนและไขมันในเหงื่อ ทำให้เกิดกลิ่น
- เหงื่อออกมาก – ต่อมเหงื่อชนิด Apocrine จะหลั่งเหงื่อที่มีไขมันและโปรตีน เมื่อถูกย่อยสลายโดยแบคทีเรียจึงเกิดกลิ่นแรง
- อาหารการกิน – อาหารบางชนิด เช่น กระเทียม หัวหอม เครื่องเทศ และอาหารรสจัด อาจทำให้เหงื่อมีกลิ่นแรงขึ้น
- สุขอนามัย – การไม่ทำความสะอาดใต้วงแขนอย่างเหมาะสมทำให้แบคทีเรียสะสม
- เสื้อผ้า – สวมเสื้อผ้าที่อับชื้นหรือทำจากผ้าไม่ระบายอากาศ ทำให้เหงื่อสะสมและเกิดกลิ่น
10 วัตถุดิบธรรมชาติช่วยกำจัดกลิ่นใต้วงแขน
1. เบกกิ้งโซดา (Baking Soda)
เบกกิ้งโซดามีคุณสมบัติดูดซับความชื้นและช่วยปรับสมดุลค่า pH บนผิวหนัง ทำให้แบคทีเรียเจริญเติบโตได้ยาก
วิธีใช้:
- ผสมเบกกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะกับน้ำเล็กน้อยจนเป็นเนื้อครีม
- ทาบริเวณใต้วงแขนทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วล้างออก
- หรือใช้เบกกิ้งโซดาผสมกับแป้งข้าวโพดโรยไว้เพื่อลดเหงื่อ
2. น้ำมะนาว (Lemon Juice)
กรดซิตริกในมะนาวช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและลดกลิ่นไม่พึงประสงค์
วิธีใช้:
- หั่นมะนาวเป็นชิ้นบาง ๆ ถูเบา ๆ บริเวณใต้วงแขน
- ทิ้งไว้ 5-10 นาที แล้วล้างออก (หากผิวแพ้ง่ายให้ผสมน้ำเล็กน้อย)
- ควรหลีกเลี่ยงการออกแดดหลังใช้ เพราะอาจทำให้ผิวไหม้ได้
3. น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล (Apple Cider Vinegar)
น้ำส้มสายชูหมักมีกรดอะซิติกที่ช่วยฆ่าเชื้อและปรับสมดุลผิว
วิธีใช้:
- ผสมน้ำส้มสายชูหมักกับน้ำในอัตราส่วน 1:1
- ใช้สำลีชุบแล้วทาบริเวณใต้วงแขน ทิ้งไว้ 5 นาทีแล้วล้างออก
- หรือใช้เป็นสเปรย์ระงับกลิ่นโดยผสมกับน้ำมันหอมระเหย
4. ใบเสจ (Sage Leaves)
ใบเสจมีสารต้านแบคทีเรียและช่วยลดการผลิตเหงื่อ
วิธีใช้:
- ต้มใบเสจในน้ำร้อน แล้วใช้ผ้าชุบน้ำยามาเช็ดใต้วงแขน
- หรือนำใบเสจมาบดผสมกับน้ำเล็กน้อยแล้วพอกบริเวณที่ต้องการ
5. ต้นโรสแมรี่ (Rosemary)
มีสารต้านเชื้อราและแบคทีเรีย ช่วยระงับกลิ่นกาย
วิธีใช้:
- ต้มโรสแมรี่กับน้ำ แล้วใช้เป็นน้ำล้างใต้วงแขน
- หรือนำมาบดผสมกับเบกกิ้งโซดาเพื่อทำเป็นแป้งระงับกลิ่น
6. เปลือกมะกรูด (Kaffir Lime Peel)
น้ำมันหอมระเหยในมะกรูดช่วยลดแบคทีเรียและกลิ่นเหงื่อ
วิธีใช้:
- นำเปลือกมะกรูดสดมาถูเบา ๆ บริเวณใต้วงแขน
- หรือต้มเปลือกมะกรูดแล้วใช้เป็นน้ำล้างทำความสะอาด
7. ชาเขียว (Green Tea)
สารต้านอนุมูลอิสระในชาเขียวช่วยฆ่าเชื้อและลดการอับชื้น
วิธีใช้:
- ชงชาเขียวแล้วนำสำลีชุบมาทาบริเวณใต้วงแขน
- หรือใช้ใบชาเขียวมาบดพอกเพื่อดูดซับกลิ่น
8. ใบบัวบก (Gotu Kola)
มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียและช่วยสมานผิว
วิธีใช้:
- นำใบบัวบกมาบดผสมกับน้ำเล็กน้อยแล้วทาลงบนผิว
- หรือต้มน้ำใบบัวบกแล้วใช้ล้างทำความสะอาด
9. ขมิ้นชัน (Turmeric)
ขมิ้นมีสารเคอร์คูมินที่ช่วยต้านเชื้อและลดการอักเสบ
วิธีใช้:
- ผสมผงขมิ้นกับน้ำเล็กน้อยจนเป็นเนื้อครีม
- ทาลงบนใต้วงแขนทิ้งไว้ 10 นาที แล้วล้างออก
10. น้ำมันทีทรี (Tea Tree Oil)
น้ำมันทีทรีมีคุณสมบัติต้านเชื้อราและแบคทีเรียอย่างแข็งแรง
วิธีใช้:
- ผสมน้ำมันทีทรี 2-3 หยดกับน้ำมันมะพร้าวหรือน้ำ
- ทาลงบนใต้วงแขนวันละครั้งเพื่อลดกลิ่น
วิธีป้องกันกลิ่นใต้วงแขนด้วยธรรมชาติ
นอกจากการใช้วัตถุดิบธรรมชาติแล้ว ควรปรับพฤติกรรมเพื่อป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ด้วยวิธีต่อไปนี้
- ทำความสะอาดใต้วงแขนสม่ำเสมอ – ใช้สบู่ฆ่าเชื้อหรือน้ำยาทำความสะอาดอ่อน ๆ
- สวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี – เลือกผ้าฝ้ายหรือผ้าเนื้อบางแทนผ้าใยสังเคราะห์
- หลีกเลี่ยงอาหารกระตุ้นกลิ่น – เช่น กระเทียม หัวหอม อาหารรสจัด
- ดื่มน้ำมาก ๆ – ช่วยขับสารพิษและลดความเข้มข้นของเหงื่อ
- โกนขนรักแร้เป็นประจำ – ลดพื้นที่ให้แบคทีเรียสะสม
วิธีการใช้วัตถุดิบธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ
1. เบกกิ้งโซดา + น้ำมันมะพร้าว
เบกกิ้งโซดาช่วยดูดซับความชื้นและลดแบคทีเรีย ส่วนน้ำมันมะพร้าวมีคุณสมบัติต้านเชื้อและให้ความชุ่มชื้น
สูตร:
- ผสมเบกกิ้งโซดา 2 ช้อนโต๊ะกับน้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ
- คนให้เข้ากันจนเป็นเนื้อครีม
- ทาบริเวณใต้วงแขนหลังอาบน้ำ ทิ้งไว้ 10 นาทีแล้วล้างออก
- ใช้สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
2. มะนาว + เกลือทะเล
กรดจากมะนาวช่วยฆ่าเชื้อ ส่วนเกลือทะเลช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าและลดแบคทีเรีย
สูตร:
- คั้นน้ำมะนาว 1 ลูก ผสมกับเกลือทะเล 1 ช้อนชา
- ใช้สำลีชุบแล้วทาบริเวณใต้วงแขน
- ทิ้งไว้ 5 นาทีแล้วล้างออก (หากแสบให้ล้างออกทันที)
- ควรทำก่อนนอนเพื่อไม่ให้ผิวโดนแดด
3. น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล + น้ำเปล่า
เหมาะสำหรับคนที่มีเหงื่อออกมากและกลิ่นแรง
สูตร:
- ผสมน้ำส้มสายชูหมักและน้ำในอัตราส่วน 1:1
- ใส่ขวดสเปรย์แล้วฉีดพ่นใต้วงแขนหลังอาบน้ำ
- ทิ้งไว้ให้แห้งเอง ไม่ต้องล้างออก
- ใช้ได้ทุกวัน
4. แป้งข้าวโพด + ใบเสจแห้ง
แป้งข้าวโพดช่วยดูดซับเหงื่อ ส่วนใบเสจช่วยระงับกลิ่น
สูตร:
- บดใบเสจแห้งให้ละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
- ผสมกับแป้งข้าวโพด 3 ช้อนโต๊ะ
- เก็บในขวดแก้ว ใช้โรยใต้วงแขนเหมือนแป้งทาตัว
เคล็ดลับเพิ่มเติมเพื่อลดกลิ่นใต้วงแขน
1. ใช้สมุนไพรแบบสเปรย์
หากไม่สะดวกในการพอกหรือทา สามารถทำเป็นสเปรย์ระงับกลิ่นได้
สูตรสเปรย์จากธรรมชาติ:
- น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำส้มสายชูหมัก 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า ½ ถ้วย
- น้ำมันทีทรี 5 หยด
ผสมทั้งหมดแล้วใส่ขวดสเปรย์ ใช้ฉีดใต้วงแขนหลังอาบน้ำ
2. หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีรุนแรง
- เลือกสบู่หรือเดオโดรانتที่ปราศจากแอลกอฮอล์และพาราเบน
- ลองใช้สบู่สมุนไพร เช่น สบู่น้ำมันมะพร้าว สบู่มะกรูด
3. ใช้ถ่านกัมมันต์ (Activated Charcoal)
ถ่านกัมมันต์ช่วยดูดซับกลิ่นและความชื้นได้ดี
วิธีใช้:
- นำแคปซูลถ่านกัมมันต์มาเปิดแล้วผสมกับน้ำเล็กน้อย
- ทาลงบนใต้วงแขน ทิ้งไว้ 10 นาทีแล้วล้างออก
ข้อควรระวังในการใช้วัตถุดิบธรรมชาติ
แม้ว่าวิธีธรรมชาติจะปลอดภัย แต่บางคนอาจมีผิวแพ้ง่าย จึงควรทดสอบก่อนใช้เสมอ
- ทดสอบการแพ้ – ทาสารละลายบนท้องแขนทิ้งไว้ 15 นาที หากไม่มีอาการคันหรือแดงจึงใช้ได้
- ไม่ใช้กับผิวที่มีแผล – กรดจากมะนาวหรือน้ำส้มสายชูอาจทำให้แสบได้
- หลีกเลี่ยงแสงแดดหลังใช้มะนาว – อาจทำให้ผิวคล้ำเสีย
สรุป
การกำจัดกลิ่นใต้วงแขนด้วยวัตถุดิบธรรมชาติเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการหลีกเลี่ยงสารเคมี หากใช้อย่างสม่ำเสมอและถูกวิธี กลิ่นไม่พึงประสงค์ก็จะลดลงอย่างแน่นอน ที่สำคัญคือต้องดูแลสุขอนามัยควบคู่ไปด้วย เช่น อาบน้ำทุกวัน เปลี่ยนเสื้อผ้าสะอาด และดื่มน้ำมากๆ
หากลองทุกวิธีแล้วยังไม่ได้ผล อาจต้องปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุอื่นๆ เช่น ฮอร์โมนผิดปกติหรือโรคผิวหนัง
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณมั่นใจมากขึ้นและมีกลิ่นกายที่สดชื่นทุกวัน!