หากกล่าวถึงสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่โด่งดังของ ประเทศไทย “อุทยานแห่งชาติภูกระดึง” ย่อมเป็นหนึ่งในรายชื่อที่นักท่องเที่ยวสายผจญภัยและธรรมชาติต้องนึกถึง ด้วยภูมิประเทศที่งดงาม อากาศเย็นสบายตลอดปี และที่สำคัญคือ น้ำตกที่สวยงามน่าประทับใจหลายแห่ง ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางผืนป่าบนยอดภูสูง
ความโดดเด่นของภูกระดึง ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ตั้งอยู่ในจังหวัดเลย มีพื้นที่กว้างใหญ่กว่า 348 ตารางกิโลเมตร โดยมีลักษณะภูมิประเทศเป็น “ภูเขาโต๊ะ” หรือภูเขายอดตัดเรียบ ด้านบนของภูคือที่ตั้งของแหล่งท่องเที่ยวหลัก เช่น ลานสน ผาหล่มสัก และแน่นอนคือ กลุ่มน้ำตกที่กระจายตัวอยู่ทั่วพื้นที่
นักท่องเที่ยวที่เดินทางขึ้นไปต้องผ่านเส้นทางเดินเท้าระยะทางประมาณ 9 กิโลเมตร ซึ่งแม้จะเหน็ดเหนื่อย แต่เมื่อถึงด้านบนก็จะพบกับทิวทัศน์ที่สวยงามเกินบรรยาย คุ้มค่ากับความพยายามทุกก้าวเดิน
น้ำตกสวยงามที่ไม่ควรพลาด

1. น้ำตกเพ็ญพบใหม่
น้ำตกแห่งนี้มีความสูงและสวยงาม อยู่ใกล้กับศูนย์บริการนักท่องเที่ยวด้านบนภูกระดึง เป็นน้ำตกที่มีแอ่งน้ำตื้นใส เหมาะแก่การแวะพักเล่นน้ำ และถ่ายรูปกับธรรมชาติที่บริสุทธิ์
2. น้ำตกวังกวาง
ตั้งอยู่บนเส้นทางเดินป่ารอบลานสน น้ำตกแห่งนี้มีลำธารไหลผ่านโขดหินขนาดใหญ่ท่ามกลางป่าสนสองใบ สภาพแวดล้อมร่มรื่นและเงียบสงบ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสงบและความเป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง
3. น้ำตกถ้ำใหญ่
เป็นหนึ่งในน้ำตกที่อยู่ลึกเข้าไปในป่า แต่ความงามของมันก็คุ้มกับการเดินเท้าเข้าไปสัมผัส น้ำที่ไหลผ่านหินชั้นสลับซับซ้อนทำให้เกิดเป็นม่านน้ำที่สวยงามและมีเสน่ห์เฉพาะตัว
4. น้ำตกธารสวรรค์
อีกหนึ่งน้ำตกที่น่าประทับใจ ด้วยชั้นหินที่เป็นลานกว้าง น้ำตกไหลลงมาระหว่างหินขนาดใหญ่ สร้างเสียงน้ำที่ไพเราะและให้บรรยากาศสงบเย็นสบาย
ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การเยี่ยมชม ประเทศไทย
ฤดูหนาวถึงต้นฤดูร้อน (พฤศจิกายน – มีนาคม) เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการขึ้นภูกระดึง อากาศเย็นสบาย น้ำตกยังคงมีน้ำเพียงพอให้ชื่นชม อีกทั้งยังเป็นช่วงที่ทัศนียภาพบนยอดภูงดงามที่สุด
คำแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยว
- เตรียมร่างกายให้พร้อม เพราะต้องเดินทางด้วยเท้าขึ้นภู
- พกเสื้อกันหนาว เนื่องจากอุณหภูมิบนยอดภูกระดึงอาจต่ำโดยเฉพาะกลางคืน
- ปฏิบัติตามกฎระเบียบของอุทยานเพื่อรักษาความสะอาดและความเป็นธรรมชาติ
- ห้ามทิ้งขยะ และควรนำขยะของตนเองลงมาด้วย
ประสบการณ์เดินป่าสู่ยอดภูกระดึง
การเดินทางขึ้นภูกระดึงไม่ใช่แค่การท่องเที่ยวธรรมดา แต่คือการ “พิชิตยอดภู” ด้วยสองเท้าของตนเอง นักท่องเที่ยวต้องเดินเท้าจากทางขึ้นบริเวณด้านล่างของอุทยาน ผ่านเส้นทางลาดชันกว่า 9 กิโลเมตร ซึ่งประกอบไปด้วยทั้งทางเรียบ ทางชัน และบันไดหินสลับกันตลอดทาง
ระหว่างทางจะพบกับ “ซำ” หรือจุดพักประมาณ 10 จุด เช่น ซำแฮก, ซำกกหว้า, ซำแคร่ ฯลฯ ที่ให้ผู้เดินทางหยุดพักและเติมพลัง บางจุดมีร้านค้าขายอาหาร เครื่องดื่ม หรือของที่ระลึกเล็ก ๆ น้อย ๆ
แม้จะเหนื่อย แต่ทุกก้าวเดินก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความรู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติ และเมื่อถึงยอดภูกระดึง ความเหนื่อยล้าทั้งหมดจะหายไปในทันที
มุมถ่ายภาพยอดนิยมที่ไม่ควรพลาด ประเทศไทย
เมื่อขึ้นถึงด้านบนของภูกระดึงแล้ว ยังมีสถานที่และจุดชมวิวมากมายที่ควรแวะไปเยือน:
1. ผาหล่มสัก
หนึ่งในจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่โด่งดังที่สุดของประเทศไทย มีลักษณะเป็นผายื่นออกมาพร้อมต้นสนเด่นสะดุดตา เหมาะสำหรับถ่ายภาพเงาตะวันลับขอบฟ้าแบบ Silhouette อันเป็นภาพสัญลักษณ์ของภูกระดึง
2. ผานกแอ่น
จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่เงียบสงบและงดงามมากที่สุด จุดนี้ต้องเดินไปตั้งแต่ก่อนฟ้าสาง เพื่อไปให้ทันแสงแรกของวัน
3. ลานวัดพระแก้ว
ลานหินที่เชื่อกันว่าเป็นที่ตั้งของวัดโบราณในอดีต เป็นพื้นที่กว้างที่เต็มไปด้วยตะไคร่น้ำและพันธุ์ไม้เล็ก ๆ สะท้อนถึงความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศด้านบน
ธรรมชาติและสัตว์ป่าที่พบได้
ภูกระดึงเป็นบ้านของสัตว์ป่าหลายชนิด เช่น กวางป่า, เลียงผา, ลิงเสน และนกหลากหลายชนิด รวมถึง พืชพรรณไม้หายาก อย่างเมเปิลเมืองไทย ที่จะผลัดใบสีแดงในฤดูหนาวช่วงปลายปี เป็นภาพที่สวยงามคล้ายฤดูใบไม้ร่วงในต่างประเทศ
สิ่งที่ควรรู้ก่อนเดินทาง
- ภูกระดึงเปิดให้ขึ้นได้เฉพาะช่วงเดือนตุลาคม – พฤษภาคม เท่านั้น เนื่องจากฤดูฝนทางอุทยานจะปิดเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติ
- ต้องลงทะเบียนจองที่พักล่วงหน้า ผ่านเว็บไซต์ของกรมอุทยานแห่งชาติ
- สามารถเลือกพักได้ทั้งเต็นท์เช่า เต็นท์ส่วนตัว หรือบ้านพักของอุทยาน
- ห้ามนำพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวขึ้นไปบนยอดภูตามนโยบายลดขยะ
กิจกรรมยอดนิยมบนภูกระดึง ประเทศไทย
การขึ้นภูกระดึงไม่ได้มีแค่การเดินป่าและชมวิวเท่านั้น แต่ยังมีกิจกรรมที่หลากหลายให้สัมผัส โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่รักการอยู่กับธรรมชาติ:
● การปั่นจักรยานชมลานสน
อุทยานฯ มีบริการให้เช่าจักรยานเพื่อขี่รอบลานสน เพลิดเพลินไปกับธรรมชาติรอบตัว เสียงนก และลมเย็นสบาย เหมาะสำหรับผู้ที่อยากผ่อนคลายแบบเบา ๆ
● การดูดาวยามค่ำคืน
ในคืนที่ท้องฟ้าเปิด นักท่องเที่ยวสามารถนอนดูดาวได้อย่างชัดเจน เพราะบริเวณยอดภูไม่มีแสงรบกวนจากเมือง สวรรค์ของคนชอบถ่ายภาพทางช้างเผือก
● การถ่ายภาพธรรมชาติ
ทั้งช่างภาพมือสมัครเล่นและมืออาชีพต่างหลงรักภูกระดึง เพราะมีจุดถ่ายภาพงดงามทุกช่วงเวลา ไม่ว่าจะเป็นแสงเช้า แสงเย็น หรือละอองหมอกยามรุ่งสาง
ประโยชน์ของการท่องเที่ยวธรรมชาติ ประเทศไทย
การท่องเที่ยวแบบเดินป่าขึ้นภูกระดึงนั้น นอกจากจะสนุก ยังมีข้อดีอีกมากมาย:
- เสริมสร้างสุขภาพ: การเดินขึ้นภูเป็นการออกกำลังกายที่ยอดเยี่ยม เสริมความแข็งแรงของหัวใจ ปอด และกล้ามเนื้อ
- ฝึกความอดทนและมีวินัย: การเดินขึ้นภูเป็นบททดสอบที่ดีของร่างกายและจิตใจ ทำให้เราได้ฝึกการตั้งเป้าหมายและพยายามจนกว่าจะถึงจุดหมาย
- ฟื้นฟูจิตใจ: การได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ช่วยลดความเครียด เติมพลังใจ และเปิดมุมมองใหม่ ๆ ในชีวิต
- ส่งเสริมความสัมพันธ์: สำหรับผู้ที่เดินทางเป็นกลุ่มหรือครอบครัว การเดินทางร่วมกันบนเส้นทางเดียวกันจะสร้างความผูกพันและความทรงจำร่วมที่ล้ำค่า
ทำไมต้องไปภูกระดึงสักครั้งในชีวิต?
- เพราะ มันคือการเดินทางที่มีความหมาย ทุกก้าวคือความท้าทายที่นำไปสู่ความสำเร็จ
- เพราะ ธรรมชาติที่ภูกระดึงยังคงสมบูรณ์และบริสุทธิ์ ให้ความรู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปสู่อ้อมกอดของป่าเขา
- เพราะ ภาพวิวที่ได้เห็นด้วยตาตนเองนั้นสวยกว่าภาพถ่ายหลายเท่า
- และเพราะ ความทรงจำของการพิชิตยอดภู จะอยู่กับคุณตลอดไป
การเตรียมตัวก่อนเดินทางขึ้นภูกระดึง
เพื่อให้การเดินทางของคุณราบรื่นและปลอดภัย การเตรียมตัวล่วงหน้าเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม:
เตรียมร่างกาย
ก่อนเดินทางควรออกกำลังกายล่วงหน้าอย่างน้อย 2-3 สัปดาห์ โดยเฉพาะการเดินหรือขึ้นบันได เพื่อฝึกกล้ามเนื้อขาและปอดให้พร้อมกับเส้นทางขึ้นภูที่ค่อนข้างท้าทาย
เตรียมอุปกรณ์ ประเทศไทย
- รองเท้าเดินป่าหรือรองเท้าผ้าใบที่ยึดเกาะพื้นได้ดี
- เสื้อกันหนาวและเสื้อกันฝน (อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย)
- ไฟฉายหรือไฟคาดหัว สำหรับการเดินยามเช้าตรู่หรือกลางคืน
- ถุงนอน, ผ้าห่ม, ถุงมือ, หมวกไหมพรม สำหรับฤดูหนาว
- กระเป๋าเป้แบบเบาแต่จุของได้ดี
- ขนมแห้งและน้ำดื่ม สำหรับเติมพลังระหว่างทาง
จองที่พักล่วงหน้า ประเทศไทย
ที่พักบนยอดภูมีจำนวนจำกัด โดยสามารถจองผ่านเว็บไซต์ กรมอุทยานแห่งชาติฯ หรือโทรสอบถามเจ้าหน้าที่โดยตรง เพื่อความมั่นใจว่าคุณจะมีที่พักแน่นอนในวันที่เดินทาง
ข้อควรระวัง ประเทศไทย
- หลีกเลี่ยงการเดินเร็วหรือฝืนร่างกาย ควรพักเป็นระยะเพื่อป้องกันการบาดเจ็บหรือเหนื่อยล้าเกินไป
- อย่าละเลยสภาพอากาศ ควรตรวจสอบพยากรณ์ล่วงหน้าและเตรียมพร้อมรับมือฝนหรืออากาศหนาวจัด
- ระวังสัตว์ป่า เช่น ลิง หรือกวาง อย่าให้อาหาร และอย่าเข้าใกล้โดยไม่จำเป็น
- ห้ามใช้เสียงดังหรือทิ้งขยะ เพราะจะรบกวนระบบนิเวศของพื้นที่
การเดินทางสู่ภูกระดึง
● โดยรถยนต์ส่วนตัว
เดินทางจากกรุงเทพฯ มายัง อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 และ 21 รวมระยะทางประมาณ 520 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 7-8 ชั่วโมง
● โดยรถโดยสารสาธารณะ
สามารถขึ้นรถจากหมอชิตไปลงที่ ผานกเค้า แล้วต่อรถสองแถวหรือรถรับจ้างไปยังทางขึ้นภูกระดึง (ประมาณ 8 กิโลเมตร)
● โดยเครื่องบิน
สามารถบินจากกรุงเทพฯ มาลงที่สนามบินเลย แล้วต่อรถโดยสารไปยังภูกระดึง (ระยะทางจากตัวเมืองเลยประมาณ 80 กม.)
เกร็ดน่ารู้
- อุณหภูมิบนยอดภูในฤดูหนาวอาจต่ำกว่า 10°C โดยเฉพาะช่วงกลางคืน
- ที่ภูกระดึงไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ในบางพื้นที่ ควรแจ้งญาติหรือคนใกล้ชิดไว้ล่วงหน้า
- การเดินขึ้นภูเริ่มได้ตั้งแต่ 6.00 – 14.00 น. เท่านั้น ไม่อนุญาตให้เดินขึ้นหลังเวลานี้เพื่อความปลอดภัย
ชวนออกเดินทาง: ภูกระดึง…รอคุณอยู่
บางครั้งการเดินทางที่เหนื่อยที่สุด อาจให้ความทรงจำที่สวยงามที่สุด หากคุณยังไม่เคยไปภูกระดึง บทความนี้อาจเป็นสัญญาณเตือนใจว่า “ถึงเวลาแล้ว” ที่จะหลุดจากความวุ่นวายของเมืองใหญ่ และก้าวสู่โลกแห่งธรรมชาติที่เงียบงามและเรียบง่าย
ไม่ว่าคุณจะไปกับเพื่อน ครอบครัว หรือไปคนเดียว ภูกระดึงพร้อมต้อนรับคุณด้วยสายลมเย็น เสียงน้ำตก และท้องฟ้ากว้างไกลไม่มีที่สิ้นสุด